“ทำเล่นๆ…” แม้แต่เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตอย่างการบรรลุธรรม อริยสงฆ์ด้านกัมมัฏฐานวิปัสสนาอย่างพระอาจารย์คำเขียน สุวัณโณ ยังพร่ำสอนลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอว่าให้ทำแบบเล่นๆ แล้วกับเรื่องอื่นใดอีกมากมายทั้งหลายแหล่ในชีวิต ทำไมเราจะไม่ทำแบบเล่นๆ กันเล่า? อะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้นับวันเรามีแต่ห่างจากเรื่องเล่นกันออกไปเรื่อยๆ อย่างแรกคงต้องชายตาไปที่ระบบการศึกษาแผนใหม่ ที่เด็กๆ ต้องแข่งกันเข้าไปอยู่ในห้องเรียนตั้งแต่ยังไม่ทันหย่านม ตามวิถีของการศึกษาเรียนรู้ในระบบที่เป็นอยู่นี้ การกระโดดโลดเต้นเที่ยวเล่นอย่างอิสระตามสัญชาตญาณของเด็กๆ อาจถือเป็นเรื่องไร้สาระ เสียเวลา น่าหวั่นวิตก เดี๋ยวเรียนไม่เก่ง ตามเพื่อนไม่ทัน ฯลฯ และอีกสารพัดความกังวลที่กลายเป็นเหตุกางกั้นเด็กยุคนี้ให้ห่างจากเรื่องเล่น-อย่างเป็นตัวของตัวเอง แล้วให้หันมุ่งไปสู่ความเป็นเลิศในเรื่องใดเรื่องเดียว-แบบสวนเกษตรเชิงเดี่ยว บางทีเราอาจลืมไปว่าเครื่องบินนั้นเกิดจากพี่น้องที่ชวนกันเล่นเครื่องร่อนลงจากหน้าผา ไอแซค นิวตัน ก็อาจไม่มีโอกาสได้ค้นพบเรื่องโน้มถ่วงของโลก หากมีแต่คนคอยเรียกให้ทำการบ้านโดยไม่ยอมปล่อยให้นอนเล่นๆ ใต้ร่มไม้บ้างเลย นี่ยังไม่นับถึงประดิษฐ์กรรมด้านศิลปกรรมหรือนวัตกรรมทั้งหลาย ซึ่งล้วนแต่ต้องมาจากพื้นฐานความคิดอิสระที่จะต่อยอดไปสู่การเป็นผู้บุกเบิกสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ดูเหมือนในภาษาอังกฤษจะเรียกสิ่งนี้ว่า Original สิ่งที่เด็กๆ ยุคใหม่มีโอกาสได้เล่นมากๆ มักเป็นการเล่นกับ “จอ” ประเภทต่างๆ สารพัด ซึ่งผมไม่กล้าแน่ใจเลยว่านั่นจะเรียกว่า เล่น ได้หรือไม่ การเล่นควรเป็นเรื่องที่ได้เคลื่อนไหวขยับกายได้เหงื่อ ได้ความแจ่มใส่ ได้สูดอากาศ ได้ทัศนียภาพ...
Tag: <span>Art workshop</span>
#เล่นกันมั้ย
กลุ่มไม้ขีดไฟ อยากชวนพี่ๆลุงๆน้าๆป้าๆยายๆมาเป็นแนวร่วมส่งเสริมการเล่นให้กับเด็ก เพราะการเล่น คือพื้นฐานการเรียนรู้ที่สำคัญ กลุ่มไม้ขีดไฟ เตรียมชั้นปันเล่นไว้จำนวน 10 ชุดอยากให้พี่ๆที่สนใจช่วย 1.หาจุดวางที่เด็กเข้าถึงได้ง่าย 2.ช่วยดูแลหมุนเวียนให้เด็กได้หยิบไปเล่น (ฟรี เอาไปเลย ไม่ต้องคืน) 3.กลุ่มไม้ขีดไฟ จะจัดส่ง ชุดของเล่น ประดิษฐ์ ศิลปะ DIY พร้อมวิธีทำ ไปให้อาทิตย์ เว้นอาทิตย์ ตลอด 2 เดือน เพื่อให้เด็กได้เข้าถึงการเล่นที่หลากหลาย 4.พี่ๆช่วยดูแล /ประชาสัมพันธ์ ให้เด็กรับรู้ เพียงแค่ท่านมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 1.อยากให้เด็กในชุมชนได้เล่น 2.สามารถส่งเสริมให้เด็กเข้าถึงชั้นของเล่นได้ 3.สามารถบริการจัดการ ดูแล แนะนำได้ เท่านี้ โดยที่ท่านไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น สมัครด่วน…กดตรงนี้เลย
ตามไปดูกลุ่มไม้ขีดไฟ สอนศิลปะ
เกาะติดขอบสนาม ตามไปดูกิจกรรมศิลปะสัญจร ที่กลุ่มไม้ขีดไฟสัญจรไปชวนเด็กๆ ในโรงเรียนขยายโอกาส ระดับประถม 4-6ตะลุยเข้าสู่โลกศิลปะที่หลากหลาย จำนวน 8 โรงเรียนๆละ 2 รอบ รวมๆแล้ว 16 รอบ มีเด็ก ๆ ที่ได้ผ่านกิจกรรมนี้ประมาณ600 คน ความน่าสนใจของกิจกรรมนี้อยู่ที่การตั้งสมมุติฐานว่า โรงเรียนขนาดเล็ก มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวิชาศิลปะ ขาดครูที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการเรียนศิลปะในโรงเรียนก็มักจะเรียนแค่วาดภาพระบายสี ท้ายที่สุด เด็กที่สนุกกับการวาดก็จะวาดได้ดีอยู่กลุ่มหนึ่ง ส่วนคนที่ไม่ถนัดวาดก็ไม่มีช่องให้เลือกลง ตกขอบไปตามระเบียบ เมื่อสมมุติฐานชัด กิจกรรมก็ชัดเจนว่า เด็กๆต้องได้เข้าสู่โลกแห่งศิลปะ อย่างหลากหลาย เด็กทุกคนต้องรู้สึกสนุก และภูมิใจกับผลงานของตัวเอง ต้องไม่มีผลงานของใครถูกโยนทิ้งถังขยะ กิจกรรมศิลปะสัญจรครั้งนี้จึงประกอบไปด้วย งานปั้น งานประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุใกล้ตัว งานสีที่ไม่ต้องวาด และงานภาพพิมพ์จากไม้ โดยมีข้อตกลงที่เด็กๆทุกคนต้องปฏิบัติตาม 3 อย่าง คือ ไม่มีคำว่า ทำไม่ได้แต่ให้พูดว่า “หนูทำได้” ผลงานทุกชิ้นสวยเท่ากันและ ให้ชมผลงานของเพื่อนแทนการล้อผลงานของเพื่อน เมื่อลงปฏิบัติจริง พบว่าสมมุติฐานของเรานั้น ไม่มีอะไรผิดพลาด โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่มีครูศิลปะ ครูคนไหนก็สอนศิลปะได้ และวิชาศิลปะมักไม่ถูกให้ความสำคัญ แถมบางโรงเรียนที่เจอ ...
เติมศิลป์จากสวน
สนุกกับเศษสิ่งของไม่ใช้แล้ว ให้กลายเป็นศิลปะ ไปชมกันว่าเด็กๆเขาทำอะไรกัน ที่สวนไฟฝันกลุ่มไม้ขีดไฟ