“ครูตู่” ผู้นำกิจกรรม หนึ่งในทีมลูกมะปราง
จบช่างวังหลวง ฝีมือทางศิลปะจึงเยี่ยมยุทธ์ไม่ต้องพูดถึง
“กระทงใบตอง” เป็นกิจกรรมแรกที่ดูไม่น่าจะยาก
แต่กลับพบว่าตัวเองเป็นคนที่สมาธิแตกซ่านที่สุดในกลุ่ม
เพราะทำออกมารูปทรงไม่เหมือนครูสอนเลย กระทงใบแรกแหลกสลายคามือ
ระหว่างตัดใบกล้วยเพื่อแก้ตัวใหม่ จึงบอกตัวเองเบา ๆ “..สติหนอ สติหนอออออ..”
กระทงใบที่สองจึงออกมารูปร่างหน้าตาดีขึ้นมาหน่อย
หลังจากนั้น ครูตู่แจกมีดให้พร้อมสาธิตเรื่องการแทงหยวก
“ไม่ยาก” ครูตู่บอก พร้อมฉายภาพกิจกรรมแทงหยวกที่เคยทำกับเด็ก ๆ ในโรงเรียนให้ดู
นกที่บินอยู่บนยอดเขาหยวก เบ็ดตกปลาคันจิ๋ว ไปจนถึงหน้ากากแฟนซีที่ชวนให้นึกถึงละครเวทีเรื่องเดอะแฟนธอม ออฟ ดิ โอเปรา ล้วนเนรมิตรขึ้นมาจากต้นกล้วยได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ความพิธีรีตองและเป็นทางการของการแทงหยวกแบบช่างโบราณ ดูเขยิบเข้ามาสู่โลกปัจจุบันหรือจะพูดให้ถูกคือโลกจินตนาการของเด็ก ๆ ขึ้นมาอีกหน่อย
“แจกมีดให้เด็ก ๆ ไม่อันตรายเหรอคะตอนทำกิจกรรม” มีคนหนึ่งในกลุ่มพวกเราถามขึ้นมา
“เสี่ยง แต่เราไม่ปล่อยให้เด็กเสี่ยงตามลำพัง..”
พี่แบตนักกิจกรรมชาวนครนายกและรับบทเป็นนักจิตวิทยาประจำทริปตอบ
“ ของมีคมเราต้องระมัดระวังก็จริง แต่อีกมุมหนึ่งก็คือเป็นการฝึกให้เด็กได้รู้จักกับความเสี่ยงบ้าง พ่อแม่ได้ฝึกตัวเองว่าไม่ต้องเลี้ยงลูกทะนุถนอมมาก ให้เขาได้ผจญภัยบ้าง แต่เรายังอยู่ข้าง ๆ เขาและพร้อมเสี่ยงไปด้วยกัน เด็ก ๆ นั้นเมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งเขาจะมีพฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ เราวางตัวอย่าง เขาฝึกทำตาม ถ้าทำได้สำเร็จ นั่นคือการสร้าง Self Esteem ให้กับเด็ก ซึ่งจำเป็นมาก ๆ นะสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่..”
ฉันนึกเห็นด้วย การรับรู้คุณค่าของตัวเองนั้นเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ สำหรับมนุษย์ทุกคน ถือเป็นภูมิคุ้มใจในการใช้ชีวิต ถ้ามีวิธีที่ช่วยสร้างมันขึ้นมาได้ตั้งแต่เยาว์วัยก็น่าจะดี
หลังกระทงใบตองใบที่สอง ฉันเลือกฝึกแทงหยวก ด้วยการทำนกที่กำลังบินอยู่บนยอดเขา ของเล่นจากธรรมชาติที่สอนเราเรื่องความสมดุลย์ เริ่มจากการเอาหยวกกล้วยมาลอกลายตัวนก ซึ่งครูตู่ทำต้นแบบไว้ให้แล้ว เอามีดค่อย ๆ ฉลุตามลายที่วาดไว้ เพื่อให้ได้ตัวนกที่สวยที่สุดเท่าที่ทำได้ ที่สำคัญคือเมื่อเราเอาปลายปากนกมาเกาะไว้บนภูเขาหยวกจะได้สมดุลย์สวยงาม
การเลื่อยหยวกกล้วยตามลายที่วาดไว้ ทำให้มีสมาธิอยู่กับตัวเองมากขึ้น ความฟุ้งซ่านตอนทำกระทงใบตองใบแรกหายไปแล้ว มีดฉลุ มือ ตา สมอง ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
ได้นกหยวกมาหนึ่งตัวแม้อาจแหว่ง ๆ อยู่บ้าง
พอเสร็จแล้ว ครูตู่จึงหาต้นกล้วยมาให้ลองทำภูเขาหยวก ระหว่างช่วยกันตัดต้นกล้วยให้เป็นยอดแหลม ครูตู่ก็อธิบายวิธีการไปด้วย ฉันสัมผัสได้ถึงออร่าความเป็นครูช่างของครูตู่มากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อต้นกล้วยออกมาเป็นภูเขาหยวก ก็ค่อย ๆ นำนกที่ตัดไว้มาเกาะ โดยให้ปากนกอยู่บริเวณส่วนยอดสุดของภูเขา โมเมนต์ตอนค่อย ๆ ปล่อยมือออก แล้วนกสามารถเกาะอยู่บนยอดเขาได้อย่างสมดุลย์สวยงามเป็นความประทับใจและภูมิใจ
นี่สินะที่เขาเรียกการพัฒนา Self Esteem..เรื่องกล้วย ๆ ที่ได้เรียนรู้ข้างในตัวเอง